ผลิต และจำหน่าย น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น แบรนด์ อัมฤทธิ์ น้ำมันมหัศจรรย์ สร้างภูมิคุ้มกัน ป้องกันและรักษาโรค ฆ่าเชื้อโรคร้าย
คลิกกลับไปหน้าแรก Information Link


Organique Oil Extra Virgin Coconut Oil

ผลิต จำหน่าย ขายปลีก ขายส่งน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ออแกนิก และอมฤต
มหัสจรรย์น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น มีวิตามินอีสูง มีกรดลอริกสูง สร้างภูมิคุ้มกัน มีคุณสมบัติเหมือนในน้ำนมแม่ เป็นสารฆ่าเชื้อโรคได้สารพัดโรค สามารถป้องกัน และรักษาโรคติดเชื้อจากเชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส ป้องกัน และรักษาโรคเอดส์ HIV โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง รักษา และป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ โรคเริม โรคซาร์ ฯลฯ


น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นมีดีอย่างไรจึงสามารถฆ่าเชื้อโรค และฆ่าเชื้อไวรัสชนิดร้ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อมูลทางวิชาการ ความรู้จาก การวิจัย ผลงานการทดลองที่มีต่อคุณสมบัติ และประโยชน์ของน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น

นำเสนอโดย Akesirikul


ผลิต และจำหน่าย ขายปลีก ขายส่ง น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น แบรนด์ อัมฤทธิ์ น้ำมันมหัศจรรย์ สรรพคุณ 1081009 เสริมสร้างภูมคุ้มกัน ป้องกัน และรักษาโรค ฯลฯ
ผลิด และจำหน่ายโดย Akesirikul รับประกันคุณภาพ สินค้าได้มาตรฐานอุตสาหกรรม
ขายปลีก ขายส่ง จัดส่งทางพัสดุไปรษณีย์ ทั่วประเทศ คิดราคาค่าส่งตามระยะทาง จาก กทม สู่ปลายทาง
ติดต่อสั่งซื่้อได้ทางไลน์ ไอดี ake007online


น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น
ผลิตภัณฑ์น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นตรา อมฤต นำเสนอเรื่องราว และข้อมูลโดย Akesirikul

        เป็นที่รู้กันไปทั่วไปแล้วว่า ไวรัสเป็นสุดยอดของเชื้อโรค (supergerm) ที่ไม่มีสารเคมี หรือยาใด ๆ จะฆ่ามันได้ แม้แต่ยาปฏิชีวะซึ่งสามารถฆ่าแบคทีเรียได้อย่างชงัด ก็ฆ่าไวรัสไม่ได้
โชคดีที่ร่างกายของเรา มีระบบภูมิคุ้มกันที่ต่อสู้กับเชื้อไวรัสได้ เนื่องจากเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สามารถติดต่อกันได้ง่ายดังได้กล่าวมาแล้ว
ดังนั้น เราทุกคนต่างก็มีโอกาสเป็นไข้หวัดใหญ่ และวิธีที่เราใช้ป้องกันไข้หวัด ก็คือการมีระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง
เมื่อเราเริ่มเป็นหวัด เราควรจะพักผ่อน และปล่อยให้ระบบภูมิคุ้มกันในตัวเราทำงาน
แต่ถ้าหากร่างกายไม่แข็งแรง ก็อาจใช้เวลาหนึ่งสัปดาห์ หรืออาจมากกว่านั้น และก็มีบางครั้ง ที่ผู้ป่วยอาจเสียชีวิตจากการทำลายเนื้อเยื่อต่าง ๆ ของร่างกาย
โดยอนุภาคไวรัสที่เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างมากในร่างกายของเรา เมื่อร่างกายขาดภูมิคุ้มกันที่จะต่อสู้กับไวรัส หรือมี แต่มีจำนวนไม่มากพอ

เนื่องจากน้ำมันมะพร้าวสามารถฆ่าเชื้อไวรัสได้ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มภูมิคุ้ม กันให้แก่ร่างกาย คนที่เป็นไข้หวัดจึงหายได้ภายในวันสองวัน หรือแม้แต่เพียงคืนเดียว
หากร่างกายของเราแข็งแรง แต่หากเราบริโภคน้ำมันมะพร้าวเป็นประจำ เราจะปลอดจากการเป็นหวัดโดยสิ้นเชิง

เป็นเรื่องประหลาดที่น้ำมันมะพร้าว ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ ที่สามารถฆ่าเชื้อไวรัสชนิดที่ร้ายแรง และที่ฆ่ามันได้ยาก แต่ก็ฆ่าได้
แต่เนื่องจากบรรดาแพทย์สมัยใหม่ ทั้งหลาย ไม่เคยคิดเลยว่า น้ำมันมะพร้าวที่แสนจะธรรมดา จะสามารถฆ่าเชื้อไวรัส
ที่ตัวยาสมัยใหม่มากมายที่นักวิทยาศาสตร์ผลิตขึ้นมา ยังทำอะไรมันไม่ได้ แพทย์เหล่านี้ จึงไม่ได้สนใจนำน้ำมันมะพร้าวไปรักษาโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัส

น้ำมันมะพร้าวมีวิธีฆ่าไวรัสได้อย่างแยบยล ดังมีรายละเอียดดังต่อไปนี้:

.1 ส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้ไปทำลายไวรัส

กรดไขมันอิ่มตัวขนาดกลางในน้ำมันมะพร้าว โดยเฉพาะกรดลอริก ทำหน้าที่ส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้ไปทำลายไวรัส โดย:
* กระตุ้นการผลิตเม็ดเลือดขาว ให้ไปโจมตี และทำลายทุกสิ่งที่แปลก ปลอมของร่างกาย รวมทั้งไวรัส แบคทีเรีย เซลล์มะเร็ง
* ช่วยแบ่งเบาภาระของเม็ดเลือดขาว โดยช่วยต่อสู้กับเชื้อโรคอื่น ๆ เช่นแบคทีเรีย เชื้อราและยีสต์ เชื้อโปรโตซัว และพยาธิ์ ทำให้เม็ดเลือดขาวมีเหลือเป็นจำนวนมาก และแข็งแรงพอที่จะไปทำลายไวรัส

.2 น้ำมันมะพร้าวมีสารฆ่าไวรัสที่ชงัด

น้ำมันมะพร้าว เป็นไขมันที่ประกอบด้วยไตรกลีเซอไรด์สายโซ่ขนาดกลาง (Medium Chain Triglycerides – MCT) 2 ใน 3 ส่วน
ไตรกลีเซอไรด์ประกอบด้วยกรดไขมัน 3 โมเลกุลต่อกับกลีเซอรอล (glycerol) เมื่อเข้าไปใน ร่างกาย MCT จะถูกเอ็นไซม์เปลี่ยนเป็นโมโนกลีเซอไรด์ (monoglycerides) และกรดไขมันขนาดกลาง (MCFAs) ได้แก่ โมโนลอรินและกรดลอริก (C-12), โมโนคาปรินและกรดคาปริก (C-10), โมโนคาปริลินและกรดคาปริลิก (C-8),
และ โมโนคาปริโอนินและกรดคาปริโอนิก (C-6) ในบรรดาสารเหล่านี้ กรดลอริกซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักของน้ำมันมะพร้าว เพราะมีอยู่ประมาณครึ่งหนึ่งของน้ำมันมะพร้าว เป็นสารตัวแรกที่ได้รับการพิสูจน์ว่า มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อโรค

จากการนำนมน้ำเหลืองของมารดาไปทดลอง (Kabara 1980) โดยปกติน้ำนมของมนุษย์และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอื่น ๆ มีกรดลอริกเป็นจำนวนมาก ทั้งกรดลอริก และ โมโนลอริน เป็นตัวการในการป้องกันเชื้อโรคให้กับเด็กทารกในระยะ 6 เดือนแรกของชีวิตที่ระบบภูมิคุ้มกันยังไม่พัฒนา แต่ถ้ามารดาไม่ได้บริโภคน้ำมันมะพร้าว ปริมาณกรดลอริกจะมีเพียง 3% และจะเพิ่มเป็น 18% ภายในเวลา 14 ชั่วโมง หากมารดาได้บริโภคน้ำมันมะพร้าวเข้าไป

มีการพบว่า ไวรัสที่มีเกราะไขมันหุ้มตัว ทั้งในน้ำนมของคนและวัว ถูกทำลายเมื่อมีการเติมกรดไขมันขนาดกลางและโนโนกลีเซอไรด์ของมันลงไป (Isaacs, et al. 1991) และแม้แต่ด้วยกรดไขมันขนาดกลาง และโนโนกลีเซอไรด์ที่มีอยู่แต่เดิมในน้ำนมเหล่านั้น (Isaacs, et al. 1986, 1991, 1992; Thomar 1987)
ยิ่งกว่านั้น ผลต่อการทำลายไวรัส เป็นผลประเภทบวกเข้าด้วยกัน (additive effect) จากการทำงานร่วมกันของกรดไขมันขนาดกลางทุกตัว และปริมาณรวมของความเข้มข้นของกรดไขมันเหล่านี้ มีความสำคัญต่อการทำลายไวรัส (Isaacs and Thormar 1990)

Hierholzer and Kabara (1982) เป็นผู้แสดงให้เห็นว่าโมโนลอรินสามารถทำลายไวรัส ทั้งที่มีสารพันธุกรรมเป็น RNA และ DNA ที่มีเกราะหุ้มเป็นไขมัน ทั้งนี้โดยความร่วมมือของศูนย์ป้องกันโรคของ US Public Health Service โดยคัดเลือกสายพันธุ์ไวรัสที่มีเกราะไขมันหุ้มที่ก่อให้เกิดโรคแก่มนุษย์

นอกจากนั้น Kabara (1978) ยังได้รายงานว่ากรดไขมันขนาดกลางอื่นๆ และโมโนกลีเซอไรด์ของมัน ยังทำลายเชื้อโรคอื่น ๆ รวมทั้งแบคทีเรีย เชื้อรา ยีสต์
และไวรัสที่มีเกราะหุ้มตัว ในบรรดาสารเหล่านี้ โมโนลอริน ซึ่งเป็น glyceride ester ของกรดลอริก นับว่ามีประสิทธิภาพสูงสุดในการทำลายเชื้อไวรัส และสูงกว่ากรดลอริก
โมโน ลอรินสามารถละลายไขมัน (หรือลิปิด-lipid) และฟอสโฟลิปิด (phospholipid) ที่เป็นองค์ประกอบของเกราะหุ้มอนุภาคไวรัส ทำให้เยื่อไขมันอ่อนนิ่ม
และอนุภาคไวรัสแตกสลายในที่สุด (Isaacs and Thormar 1991; Isaacs, et al. 1992)

การค้นพบความจริงที่ว่า เชื้อโรคที่ถูกทำลายโดยโมโนลอรินมากที่สุด ก็คือพวกที่มีไขมันเป็นเกราะหุ้ม นับว่าเป็นประโยชน์อย่างมากในการต่อต้านเชื้อพวกนี้ ซึ่งได้ไขมันมาจากเจ้าบ้าน (host) ที่มันอาศัยอยู่ เกราะไขมันที่ห่อหุ้มอนุภาคของไวรัสเป็นจุดเด่นที่ทำให้ไวรัสเหล่านี้ รอดพ้นจากการทำลายโดยสาร เคมีและยาปฏิชีวนะ
แต่ก็เป็นจุดอ่อน ที่ทำให้มันถูกทำลายได้โดยน้ำมันมะพร้าวที่ได้จากการสกัดเย็น

จากผลงานของ Enig (1995) พบว่าโมโนลอริน ซึ่งเกิดมาจากกรดลอริก ที่ถูกดูดเข้าไปที่เยื่อหุ้มชั้นนอกของไวรัส จากความคล้ายคลึงทางเคมี (chemical affinity) ของไขมันด้วยกันไปทำให้เยื่อไขมันที่หุ้มตัวไวรัสอ่อนตัว ฉีกขาดและ สลายตัว (lysis) ไปในที่สุด วิธีการนี้ มีประสิทธิภาพมาก จนสามารถฆ่าเชื้อโรค ประเภทสุดยอดของเชื้อโรค (supergerms) ที่สามารถต่อต้านยาปฏิชีวนะ และยา ฆ่าเชื้ออื่น ๆ ทุกชนิด (Hierholzer and Kabara 1982)

นอกจากนั้น ยังมีหลักฐานจากการวิจัยว่าโมโนลอรินยังไปยับยั้งกระบวน การทรานส์ดักชัน (transduction) ที่มีส่วนทำให้ไวรัสแลกเปลี่ยนชิ้นส่วนของสารพันธุกรรมที่ทำให้มันกลายพันธุ์ และก่อให้เกิดการระบาดของโรคระบาดที่ร้ายแรง (Dulbecco 1980; Hierholzer and Kabara 1982; Isaacs and Thormar
1986; Isaacs and Schneidman 1991; Isaacs, et al. 1990; Thormar, et al. 1987)

.3 ไวรัสที่ถูกฆ่าโดยน้ำมันมะพร้าว

จากผลการวิจัยโดยนักวิจัยจำนวนมาก (Ascherio, et al. 2001; Enig 1997; Fletcher, et al. 1985; Isaacs, et al. 1990; Ismail-Cassim, et al. 1990; Kabara, et al. 1972; Kohn, et al. 1980; Projan, et al. 1994; Sands, et al. 1979; Silver, et al. 1956; Simmons 2001; Thormar, et al. 1987)
พบว่า เชื้อไวรัสที่ถูกทำลายโดยกรดไขมันอิ่มตัวขนาดกลาง และโมโนกลีเซอไรด์ของมัน ได้แก่ไวรัสที่มีแสดงในตารางที่ 1

ตารางที่ 1. ไวรัสที่ถูกฆ่าโดยน้ำมันมะพร้าว
Human immuno-deficiency virus (HIV) Vesicular stomatitis virus (VSV)
Human papilloma virus (HPV) Human lymphotropic virus (HLV)
SARS corona virus Cytomegalovirus (CMV)
Measles virus Rubeola virus
Epstein-Barr virus Leukemia virus
Herpes simplex virus -1 (HSV-1) Pseumonia virus
Herpes viridae Hepatitis C virus
Sarcoma virus Synctial virus
Coxsackie B4 virus Visna virus

.4 โรคที่เกิดจากไวรัสที่ป้องกัน-รักษาได้ด้วยน้ำมันมะพร้าว

มีงานวิจัยที่แสดงให้เห็นว่าน้ำมันมะพร้าวสามารถทำลายเชื้อไวรัสที่เป็น สาเหตุของโรคร้ายแรง เช่น โรค AIDS และ SARS และโรคอื่น ๆ

.4.1 โรคเอดส์ (AIDS): โรคเอดส์ หรือโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง (acquired immunodeficiency syndrome) เกิดจากเชื้อไวรัส human immunodeficiency virus (HIV) ที่ไปทำลายระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ซึ่งได้แก่เม็ดเลือดขาว ที่รู้จักกันในชื่อของ CD4 และ CD8 ที่ช่วยทำลายเชื้อโรคอื่น ๆ
และสิ่งแปลกปลอมที่เข้าไป หรือมีอยู่ในร่างกาย เช่นเซลล์มะเร็ง สารพิษ

ตลอดเวลาที่โรคเอดส์ได้เกิดขึ้น และคร่าชีวิตมนุษย์ไปแล้วหลายร้อยล้านคน ได้มีความพยายามของนักวิทยาศาสตร์ที่หาทางต่อต้านเชื้อไวรัส โดยค้นพบยาต้านไวรัสประเภทต่าง ๆ แต่เนื่องจากค่ายาดังกล่าวยังแพงอยู่มาก (หลายแสนบาทต่อปี) จึงเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้สำหรับผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่ยากจน ดังนั้น การค้นวิธีการรักษาโรคเอดส์ที่ประหยัด แต่ได้ผล จะช่วยรักษาชีวิตของประชากรของโลกที่ 3 ที่ยากจน ให้รอดชีวิตอยู่ได้ เป็นที่น่ายินดีที่นักวิจัยกลุ่มหนึ่งพบว่า น้ำมันมะพร้าวที่แสนจะธรรมดา
กลับเป็นตัวยาที่ฆ่าเชื้อไวรัส HIV ได้อย่างชงัด ดังที่จะได้อธิบายดังต่อไปนี้:

การทดลองทางคลินิกใช้น้ำมันมะพร้าวรักษาโรค AIDS ที่โรงพยาบาล San Lazaro ในฟิลิปปินส์โดย Dr. Conrado Dayrit
พบว่า viral load ในคนไข้ส่วนใหญ่ลดลง และ CD4 เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนั้น ยังมีกรณีศึกษามากมายที่แสดงว่า
ผู้ป่วยที่ใช้น้ำมันมะพร้าว มี viral load ลดลง มี CD เซลล์เพิ่มขึ้น (Dayrit 2000) และอาการของโรคเอดส์ และโรคแทรกอื่น ๆ ก็หายไป

Enig (1995) ซึ่งเป็นนักชีวเคมีและโภชนศาสตร์ที่มีชื่อเสียงที่สุดคนหนึ่งในสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า เมื่อบริโภคเข้าไปในร่างกาย น้ำมันมะพร้าวจะเปลี่ยน ไปเป็นโมโนลอริน
ที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ HIVได้ และยังได้ยกตัวอย่างของกรณีศึกษาในสหรัฐอเมริกา ที่เด็กทารกที่ป่วยโรคเอดส์ หายจากอาการโรคนี้ได้
้หลังจากที่ได้รับสูตรอาหารเด็กที่เติมน้ำมันมะพร้าว เข้าไป ปัจจุบันได้มีการศึกษา เพื่อที่จะค้นพบว่าปริมาณของเชื้อ HIV
ของเด็กทารกลดลงได้อย่างไรจากการบริโภคอาหารที่มีน้ำมันมะพร้าวผสมอยู่

4.2 โรคซาร์ (SAR) : Dr. Conrado Dayrit ที่ค้นพบว่าน้ำมันมะพร้าวรักษาอาการของโรคเอดส์ได้ ยังได้ทำการศึกษาต่อไป โดยใช้น้ำมันมะพร้าวรักษาคนไข้ที่เป็นโรคซารส
์ (severe acute respiratory syndrome – SARS) ซึ่งก็ปรากฏว่าได้ผลเช่นเดียวกันกับโรคเอดส์

.4.3 โรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสอื่น ๆ : Enig (1995) ได้ให้ข้อสังเกตว่า โมโน ลอรินจากน้ำมันมะพร้าว สามารถช่วยทำลายไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคเริม (herpes simplex), งูสวัด (herpes zoster), โรคหัด (measles), ไข้หวัดใหญ่ (influenza), โรคปอดบวมจากเชื้อไวรัส (pneumoniae), แผลริมฝีปาก (vesicular stomatitis) (VSV), โรคทางเดินหายใจ (visna), โรคเจ็บคอ ลำไส้อักเสบ ท้องร่วง ปอดบวม(cytomegalovirus - CMV), โรคติดเชื้อทางเดินหายใจ (respiratory syncytial virus - RSV) และ หัดเยอรมัน (rubeola)ได้ด้วย

นอกจากนั้น ยังมีงานวิจัยที่แสดงว่า น้ำมันมะพร้าวสามารถฆ่าไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคต่อไปนี้:
* ไข้หวัดใหญ่ (influenza)
* โรคเริม (herpes simplex)
* โรคงูสวัด (herpes zoster)
* โรคหัด (measles)
* โรคตับอักเสบ (hepatitis C)

.5 น้ำมันมะพร้าวฆ่าไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคไม่ติดเชื้อ

ไม่เพียงแต่เชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคติดเชื้อต่าง ๆ เท่านั้น ที่น้ำมันมะพร้าวสามารถฆ่าได้ แม้แต่เชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุปฐมภูมิของโรคที่คนส่วนใหญ่ยังคิดว่าเป็นโรค ไม่ติดเชื้อ เพราะไม่พบว่า มีเชื้อโรคใด ๆ ก่อให้เกิดโรคดังกล่าว แต่ผลการวิจัยในระยะหลัง ๆ พบว่า โรคเหล่านี้ แท้ที่จริงแล้ว มีเชื้อโรค โดยเฉพาะเชื้อไวรัสมีส่วนเกี่ยวข้อง และเป็นตัวการก่อให้เกิดอาการของโรคในภายหลัง โรคเหล่านี้ ได้แก่:

5.1 โรคหัวใจ : มีรายงานว่า coxsackievirus B เข้าไปทำลายหัวใจ ทำให้เกิดโรคหัวใจ และ herpes simplex virus ก่อให้เกิดการอักเสบในหลอดเลือด
เป็นเหตุให้เกิดภาวะหลอดเลือดแดงแข็งตัว และการอุดตันหลอดเลือด จนทำให้เกิดโรคหัวใจ

5.2 โรคมะเร็ง : มีรายงานว่า human papilloma virus (HPV) เป็นไวรัสที่เป็นสาเหตุของมะเร็งปากมดลูก Epstein-Barr virus ทำให้เกิดโรคมะเร็งโพรง
หลังจมูก และherpes simplex virus type 2 ทำให้เกิดโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว

5.3 โรคเบาหวาน : มีรายงานว่า enterovirus เป็นไวรัสที่เป็นสาเหตุของเบาหวานชนิดที่ 1 ในขณะที่ coxsackievirus เป็น สาเหตุของเบาหวานชนิดที่ 2

5.4 โรคอ้วน : มีรายงานว่า adenovirus (AD-36) เป็นตัวการในการเพิ่มปริมาณเซลล์ไขมัน และยังทำให้เซลล์ไขมันขยายตัว ทำให้เป็นโรคอ้วน
ซึ่งมีพฤติกรรมเหมือนไวรัสไข้หวัด ที่ติดต่อได้เมื่อคนอ้วนไอหรือจามรด

.6 คุณสมบัติอื่นๆ ของน้ำมันมะพร้าว

นอกจากจะทำลายเชื้อไวรัสที่เป็นเชื้อโรคประเภทหัวแข็งได้แล้ว น้ำมันมะพร้าวยังมีคุณสมบัติอื่น ๆ อีกมาก เช่น:
* ฆ่าเชื้อโรคอื่น ๆ ทุกชนิด (ผิดกับสารปฏิชีวนะที่ฆ่าเฉพาะแบคทีเรีย) แต่ก็ไม่ฆ่าแบคทีเรียที่เป็นประโยชน์ในร่างกาย เพราะแบคทีเรียเหล่านี้ ไม่มีเกราะไขมันหุ้ม
* ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย แม้แต่กับเด็กทารก
* ไม่เกิดผลข้างเคียง
* ไม่ต้องมีใบสั่งยา
* ร่างกายสามารถใช้เป็นอาหารได้ นั่นคือ เป็นอาหารที่เป็นยา (ด้วย)
* ไม่เกิดการดื้อยา (ไม่เหมือนกับการใช้ยาปฏิชีวนะ หรือยาต้านไวรัส oseltamivir ที่ป้องกันไม่ให้ไวรัสที่เกิดใหม่หลุดออกไปจากเซลล์ที่ถูกทำลาย)
* ไม่เจาะจงเหมือนวัคซีน ที่ฆ่าเฉพาะสายพันธุ์ของไวรัสที่นำไปสร้างวัคซีน แต่สามารถฆ่าไวรัสทุกสายพันธุ์ได้ด้วย
* สามารถฆ่าเชื้อไวรัสและแบคทีเรียประเภท supergerms ทุกสายพันธุ์

คลิกดู เรื่องสำคัญระดับโลก คำสารภาพผิดจากความเชื่อที่หลงผิดมานานกว่า 60 ปี เกี่ยวกับการกินน้ำมันพืช ไขไม่อิ่มตัว กับไขมันอิมตัว

คลิกดู อ้างอิงข้อมูลทางวิชาการจากบรรดา ศาสตราจารย์ ผู้ทำวิจัยเรื่องกรดลอริก http://www.foodnetworksolution.com/wiki/word/1179/lauric-acid-

 

ผลิต และจำหน่าย ขายปลีก และขายส่ง น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น อมฤต จัดจำหน่ายโดย AKE เอกสิริกุล

ผลิต และจำหน่าย ขายปลีกส่ง น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น มาตรฐานอุตสาหกรรม   ผลิต จำหน่าย ขายปรีก ส่ง น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ตราอมฤต จัดจำหน่ายโดย เอกสิริกุล โทร 081 1498007

ราคาขายปลีก และ ราคาขายส่ง น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น จัดจำหน่ายโดย เอกสิริกุล

ขนาดบรรจุ  100   CC บรรจุภายในขวดหัวฉีด ขนาดพกพา สดวกในการใช้งาน ราคาขายปลีก ขวดละ   150   บาท ราคาขายส่ง โหลละ   1200 บาท
ขนาดบรรจุ  500   CC บรรจุภายในขวดสดวกในการใช้งาน ราคาขายปลีก             350   บาท ราคาขายส่ง โหลละ   3800 บาท
ขนาดบรรจุ  1000 CC บรรจุภายในขวดขนาด 1 แกลลลอนเล็ก ในการใช้เติม ราคาขายปลีก              650   บาท ราคาขายส่ง โหลละ   7000 บาท
ขนาดบรรจุ  10 ลิตร บรรจุภายในแกลลอนด์ขนาด 10 ลิตร ราคาขายปลีก            6000   บาท ราคาขายส่ง 40 ลิตร     
24,000 บาท ลิตรละ 600 บาท

 

จัดจำหน่ายโดย AKE เอกสิริกุล เลขที่ 22 ถนนลาดพร้าว ซอย 65 เขตลาดพร้าว วังทองหลาง กทม 10310
วิธีสั่งซื้อ
นำเงินเข้าบัญชี ตามราคาสินค้า ตามจำนวนที่แจ้งใว้ในตารางข้างบน
ธนาคาร กสิกรไทย สาขา ลาดพร้าว 67
ชื่อบัญชี เอกสิริ เลขบัญชี 074-2-79031-2
ชำระเงินเรียบร้อยแล้ว โทรแจ้งที่ เบอร์โทร AKE 087 7069007
หรือติดต่อทางไลน์ ไอดี ake007online
จัดส่งทั่วประเทศทางผัสดุลงทะเบียนทางไปรษณีย์ คิดค่าส่ง น้ำหนักตามระยะทาง

 

 


สงวนลิขสิทธิ์ การออกแบบหน้าเว็บเพจเว็บไซต์สไตล์หน้าแรก index โดยAKE เอกสิริกุล ผู้ออกแบบ และเจ้าของลิขสิทธิ์ ห้ามคัดลอกเรียนแบบ ห้ามดัดแปลงใดๆในรูปแบบของหน้า Index