แนะแนวทาง  โดยอาจารย์ เอกสิริกุล
ความหมายของคำว่า Meditation หมายถึงการคิดคะนึง, การไตร่ตรอง, การเพ่งพิจารณาดู, การมุ่งหมาย, การเข้าฌาน
การฝึกพลังจักระคือ การเพ่งมองจักระด้วยความมุ่งมั่นอย่างเป็นสมาธิ จนก้าวไปสู่ระดับการเข้าฌาน
        

ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับจักระ

        จักระที่ สำคัญที่อยู่ภายในร่างกายเรามีอยู่ 7 จักระ ลักษณะกลมแบนคล้ายดอกบัวบาน หมุนรอบตัวเอง มีสีแสงตั้งแต่หยาบจนละเอียด และสีของจักระมีอยู่ 7 สี เหมือนสีของสายรุ้ง

          การพัฒนาสมาธิของมนุษย์มีความก้าวหน้า ทำให้สามารถได้ยิน มองเห็นได้ไกล คือมีหูทิพย์ ตาทิพย์ โลกใหม่ได้เปิดออกต่อหน้าต่อตา จักระเป็นสิ่งที่มหัศจรรย์สิ่งหนึ่งในหลายสิ่งในร่างกายของมนุษย์ ซึ่งแต่ก่อนเราไม่สามารถสัมผัส และมองเห็นได้

          บัดนี้การเคลื่อนไหวของจักระที่หมุนดูดซับพลังได้อย่างรวดเร็วทุกจักระดึง พลังที่เป็นแสงเป็นสีเข้าสู่ร่างกาย เข้าไปช่วยซ่อมแซมส่วนที่ชำรุด บกพร่องเสียหายให้ฟื้นฟูดีขึ้น และยังสามารถถ่ายทอดพลังคอสมิคนี้ไปยังผู้อื่นโดยอำนาจสมาธิได้ โดยศึกษาวิธีการเพียงใช้มือทั้งสองข้าง ถ่ายทอดผ่านจากตนเองไปยังคนไข้ได้

          เรื่องราวของจักระทั้ง 7 ที่มีอยู่ในกายทิพย์ซ้อนอยู่ภายในกายเนื้อของมนุษย์ทุกคนในโลกนี้ จำเป็นอย่างยิ่งที่มนุษย์ทุกคนจะต้องเรียนรู้และเข้าใจการทำงานของเครื่อง จักรทั้ง 7 แห่งนี้ให้ถ่องแท้เสียก่อน เพื่อจะเรียนรู้ธรรมชาติร่างกายของเราว่า ทำงานสอดคล้องผสมผสานกันอย่างไร ทำไมบางคนมีสุขภาพดีเยี่ยม บางคนเต็มไปด้วยโรคภัยไข้เจ็บ และอุปสรรคในการดำเนินชีวิต ทุกคนจะยอมรับว่ามีเหตุมีผล ถ้าท่านได้เข้าใจ

          มนุษย์จะรักษาสุขภาพให้ดี แข็งแรง ไม่มีโรคภัย ต้องประกอบด้วย อาหารดี อากาศดี อารมณ์ดี ธาติทั้ง 4 คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ เป็นปกติ และสิ่งสำคัญคือ มีกรรมดี

          ร่างกายของมนุษย์ประกอบด้วยเซลล์มากกว่า 10 ล้านล้านเซลล์ ภายในเซลล์มีองค์ประกอบเป็นอนุภาคเล็กๆ เรียกว่าโมเลกุล ไม่น้อยกว่า 10 ล้านล้าน โมเลกุล และยังมีโมเลกุลอยู่นอกเซลล์อีกจำนวนมาก บางครั้งเราก็เรียกโมเลกุลที่มีอยู่ในสิ่งมีชีวิตว่า ไบโอ ทั้งโมเลกุลและไบโอโมเลกุล ต่างมีคุณสมบัติ ทางเคมี ฟิสิกส์ ที่เหมือนกัน และยังมีอนุภาค ที่เล็กที่สุดลงไปอีก เรียกว่าอะตอม ศูนย์กลางของอะตอม คือนิวเคลียส มีอิเล็คตรอนโคจรอยู่รอบๆ ซึ่งอาจมีวงโคจรหลายชั้นหรือชั้นเดียว

ชื่อจักระ สัญลักษณ์ และสีของจักระ

ฝึกสมาธิ พลังจิต ฝึกอำนาจจิต , สร้างอำนาจจิต ,สร้างพลังหยั่งรู้ , ฝึกพลังตรีจักระ , ฝึกพลังจักรวาล , ฝึกเปิดจักระ, ฝึกพลังปราณ เดินลมปราณ
ฝึกถอดกายทิพยจิตวิญญาณ, ฝึกสร้างกายทิพย์ กายละเอียด, ฝึกการเสริมพลังกายทิพย์ ,ฝึกอำนาจจิต, สร้างพลังชีวิต

พลังจิตสร้างพลังงานให้กับกายทิพย์

    ร่างกายของมนุษย์ ที่ประกอบด้วยกายเนื้อและกายทิพย์นั้น กายทิพย์จะเป็นพิมพ์เดียวกับกายเนื้อ มีพลังชีวิตเต็มเปี่ยม แต่ไม่มีความคิดการรับรู้ เป็นแหล่งที่บรรจุพลังแม่เหล็กไฟฟ้าที่เป็นพลังชีวิตให้กับกายเนื้อ เป็นเสมือนรถยนต์ ถ้าไม่มีแบตเตอรี่คอยส่งกระแสไฟฟ้าให้กับเครื่องยนต์ รถคันนั้นก็ขับเคลื่อนไม่ได้ แต่แบตเตอรี่ก็ไม่ใช่รถยนต์ เช่นเดียวกับกายเนื้อ ถ้าไม่มีกายทิพย์ที่ประกอบด้วยจักระ 7 แห่ง และลมปราณ แต่ลมปราณก็ไม่ใช่ร่างกายมนุษย์ เป็นเพียงพลังชีวิต คือพลังคอสมิคที่จะแจกจ่ายให้ทุกๆ เซลล์ของร่างกาย เปรียบเสมือนปลั๊กไฟที่เสียบกับขั้วไฟคอยรับกระแสพลังคอสมิค และแจกจ่ายกระแสพลังนี้ที่กายทิพย์ได้รับมาจากทะเลของพลังคอสมิคที่มีอยู่ รอบตัว

จักระสำคัญทั้ง 7
การเปิดจักร เป็นจุดสำคัญของการเกิดพลังจิต
เรียนรู้ และจดจำคุณสมบัติของจักระแต่ละจักระ

จักระที่ 1
มีชื่อว่า มูลละธาร The Bast Rootl Chakra

• สีแดง อยู่ที่ก้นกบ ธาตุดิน
• มีหน้าที่ทำให้ร่างกายแข็งแรง มีสัญชาตญาณการต่อสู้เพื่อตนเอง มีภูมิต้านทานดี
• สัมพันธ์กับต่อมหมวกไต ไต กระดูกสันหลัง ลำไส้ใหญ่ ขาทั้งสองข้าง กระดูกทั้งหมด อาหารบำรุงเลี้ยงได้แก่เนื้อสัตว์ต่างๆ แครอท มะเขือเทศ
• อัญมณีที่ส่งผลคือ ทับทิม โกเมน มาร่า
• มีอานุภาพทำให้สุขภาพแข็งแรง มีความสำเร็จทางโลกและทางวัตถุ มีความอดทน กล้าหาญ มีสัญชาตญาณเพื่อการอยู่รอด
• ถ้าหมดอานุภาพจะทำให้เป็นคนโลภ เห็นแก่ตัว โกรธง่าย เครียด ท้องผูก ปวดตามสันหลังและกระดูก
• African Ruby เป็นทับทิมสีแดง ใช้เพิ่มพลังจักระที่ 1
• กลิ่นกานพลูและไม้ซีด้า สามารถใช้กระตุ้นการทำงานของจักระที่ 1

จักระที่ 2
มีชื่อว่า สวาธิษฐาน The Sacral Chakra

• มีสีส้ม อยู่ที่สะดือ ธาตุน้ำ
• มีหน้าที่ให้ความรู้สึกทางเพศ นำอาหารไปหล่อเลี้ยงร่างกาย ช่วยล้างพิษ
• สัมพันธ์กับรังไข่ อัณฑะ ต่อมลูกหมาก อวัยวะเพศ ม้าม มดลูก กระเพาะปัสสาวะ
• อัญมณีที่ส่งผลคือปะการัง และแร่ธาตุสีส้ม อาหารได้แก่ ส้ม ไข่
• มีอานุภาพควบคุมอารมณ์ได้ดี รู้จักให้และรับ ชอบความเปลี่ยนแปลง ยอมรับความคิดใหม่ๆ มีความคิดสร้างสรรค์และอยู่ร่วมกับเพื่อนมนุษย์ ช่วยล้างพิษมลภาวะและไอโรค
• ถ้าเสื่อมอานุภาพจะทำให้มักมากในอาหารและกามคุณ มีปัญหาเรื่องเพศ สับสน เห็นแก่ตัว อิจฉา ริษยา ต้องการครอบครองทั้งที่ไม่สมควร มีปัญหาเกี่ยวกับระบบปัสสาวะและระบบสืบพันธุ์
• Cermelian เป็นอัญมณีสีส้ม ใช้เพิ่มพลังจักระที่ 2
• กลิ่นกระดังงาและไม้จันทร์หอม สามารถใช้กระตุ้นการทำงานของจักระที่ 2

จักระที่ 3
มีชื่อว่า มณีปุระ The Solar Plexus Chakra

• มีสีเหลือง อยู่กลางระหว่างลิ้นปี่กับสะดือ ตรงระดับกระเพาะ ธาตุไฟ
• มีหน้าที่ช่วยระบบประสาททำงานได้ดี ช่วยระบบย่อยอาหาร ดูดซึมอาหาร เผาผลาญอาหาร ความคุมอารมณ์ ช่วยให้สำเร็จในสิ่งที่ประสงค์ตามปรารถนา
• ต่อมที่เกี่ยวข้องได้แก่ตับอ่อน ต่อมหมวกไต ตับ ถุงน้ำดี ระบบประสาทกล้ามเนื้อ
• อัญมณีที่ส่งผลได้แก่ ทองคำ แก้วตาเสือ บุษราคัม อาหารที่บำรุงเลี้ยงคือผักผลไม้สีเหลือง ข้าวธัญพืชและถั่วต่างๆ
• มีอานุภาพช่วยให้มั่นใจในตนเอง มีเจตน์จำนงแน่วแน่ กระฉับกระเฉงมีพลังชีวิต มีความตื่นตัวอยู่เสมอ มีอารมณ์ขัน มีความร่าเริงแจ่มใส เชื่อในความเป็นอมตะ ทำอะไรก็จะทำจนสำเร็จ
• ถ้าหมดอานุภาพจะทำให้เป็นคนขี้ระแวง ไม่เชื่อมั่นตนเอง มักโกรธ เกลียด มีปัญหาระบบย่อย ไปจนถึงการขับถ่าย
• Citrine เป็นอัญมณีสีเหลือง ใช้เพิ่มพลังจักระที่ 3
• กลิ่นลาเวนเดอร์และกลิ่นโรส แมรี่ สามารถใช้กระตุ้นการทำงานของจักระที่ 3

จักระที่ 4
ชื่อว่า อะนาหตะ The Heart Chakra

• มีสีเขียว อยู่กลางทรวงอก ธาตุลม
• มีหน้าที่รับพลังจากจักรวาล เทพ หรือวิญญาณชั้นสูงให้เกิดพลังชีวิต ช่วยให้เลือดไหลเวียนดี ช่วยร่างกายแข็งแรง ใช้ล้างพิษของโรค ทั้งช่วยประสาทส่วนบนและส่วนล่างให้เกิดสมดุล
• อวัยวะที่เกี่ยวข้องได้แก่หัวใจ ปอด ต่อมไทมัสที่เกี่ยวข้องกับภูมิต้านทาน ยังสัมพันธ์กับแขนทั้งสองข้าง
• อัญมณีที่ส่งผลคือ หยก เพชร พลอย มรกต อาหารบำรุงเลี้ยงได้แก่ ผักใบเขียวต่างๆ
• มีอานุภาพให้เกิดความรัก มีอัปมัญญาธรรม มีเมตตาสงสารในเพื่อนมนุษย์ ยอมรับความคิดเห็นของผู้อื่น เปิดเผย อยู่ร่วมกับเพื่อนมนุษย์อย่างมีความสุข ไม่เอารัดเอาเปรียบ ไม่เห็นแก่ตัว ช่วยล้างพิษได้
• ถ้าขาดอานุภาพจะผิดหวังเรื่องความรัก เอาแต่ใจตัว ควบคุมตัวเองไม่ได้ มักเกิดโรคหัวใจ หอบหืด และภูมิต้านทานต่ำหรือเกิดโรคภูมิต้านทานไวเกิน
• Chreesoprase เป็นอัญมณีสีเขียว ใช้เพิ่มพลังจักระที่ 4
• กลิ่นกุหลาบ สามารถใช้กระตุ้นการทำงานของจักระที่ 4

จักระที่ 5
ชื่อว่า วิศทะ The Throat Chakra

• มีสีน้ำเงินฟ้า อยู่กลางลำคอ ธาตุอากาศ
• มีหน้าที่เกี่ยวกับการหายใจ การแสดงออก การพูด และการสื่อสาร
• สัมพันธ์กับต่อมไทรอยด์และพาราไทรอยด์ ลำคอ และปาก
• อัญมณีที่ส่งผลคือเพชร พลอยสีน้ำเงินอ่อน เช่น อะความารีน อาหารบำรุงเลี้ยงคือพืชผลสีน้ำเงินอ่อนหรือสีฟ้า
• มีอานุภาพในการสำแดงวาทศิลป์ สื่อความหมายได้ชัดเจน พูดจาถ่อมตน สร้างสรรค์ มีเมตตา สุภาพอ่อนโยน น่าเชื่อถือ และให้เกียรติผู้อื่น
• ถ้าหมดอานุภาพจะทำให้มีปัญหาในการพูดและสื่อความหมาย ใช้ความรู้อย่างไม่ฉลาด ขาดการใช้วิจารณญาณ หดหู่ ไม่ร่าเริง มีปัญหาเรื่องไทรอยด์
• Turquoize เป็นอัญมณีสีฟ้า ใช้เพิ่มพลังจักระที่ 5
• กลิ่นยูคาลิป สามารถใช้กระตุ้นการทำงานของจักระที่ 5

จักระที่ 6
ชื่อว่า อะชะ The Third Eye Chakra

• มีสีคราม อยู่กลางหน้าผาก ธาตุคือ แสงสว่าง
• มีหน้าที่เป็นตาดวงที่สาม ให้ชีวิตชีวาแก่สมองส่วนล่างและระบบประสาท ให้เกิดญาณทัศนะ ใช้ทำลายเชื้อโรคได้บางชนิด
• สัมพันธ์กับต่อมใต้สมอง ต่อมฐานสมองเกี่ยวกับตาข้างซ้าย จมูก และหูทั้งสองข้าง
• อัญมณีสีน้ำเงินแก่ เช่น ลาปิส ไพลิน มีผลต่อจักระนี้ อาหารคือพืชผักสีน้ำเงินแก่ เช่น อัญชัญ
• จักระนี้มีอานุภาพให้เข้าสมาธิง่าย มีตาทิพย์ จิตใจสงบสุข มีความจงรักภักดี ช่วยการสร้างจินตนาการอันบรรเจิด ทำลายเชื้อโรคบางชนิดได้
• ถ้าหมดอานุภาพจะทำให้ขาดสมาธิ ขี้กลัว ชอบเยาะเย้ยถากถาง เครียด ปวดหัว มีปัญหาสายตา ฝันร้าย เบื่อโลกอย่างไม่มีเหตุผล
• Lapislazuri เป็นอัญมณีสีน้ำเงิน ใช้เพิ่มพลังจักระที่ 6
• กลิ่นมะลิและสะระแหน่ สามารถใช้กระตุ้นการทำงานของจักระที่ 6

จักระที่ 7
ชื่อว่า สหสราระ The Crown Chakra

• มีสีม่วง อยู่กลางกระหม่อม ธาตุคือ ตัวรู้
• มีหน้าที่ให้ความมีชีวิตชีวา ช่วยรักษาโรค
• สัมพันธ์กับต่อมไพเนียล และศูนย์รวมประสาทของตาข้างขวา
• อัญมณีที่ส่งผลคือเพชร และอามิทิส อาหารที่บำรุงเลี้ยงคือพืชผักสีม่วง เช่นกะหล่ำม่วง มะเขือม่วง สาหร่ายสีแดงอมม่วง
• มีอานุภาพช่วยสัมผัสสิ่งที่เรามองไม่เห็น เช่น วิญญาณในภพภูมิต่างๆ เทพเทวดา สัมพันธ์กับความเชื่อในการเวียนว่ายตายเกิด มีอานุภาพช่วยรักษาโรคที่ร้ายแรง แม้กระทั่งมะเร็ง
• ถ้าจักระหมดอานุภาพจะขาดความกระตือรือร้น สับสน ว้าวุ่น ลังเล ทำตัวแปลกแยก ห่างเหินสังคม แก่เกินวัย ไม่มีศรัทธา
• Amathyse เป็นอัญมณีสีม่วง ใช้เพิ่มพลังจักระที่ 7
• กลิ่นดอกบัว สามารถใช้กระตุ้นการทำงานของจักระที่ 7

การฝึกสมาธิด้วยการเพ่งมองจักระ
เริ่มฝึกระดับพื้นฐานจากจักรที่ 6 เป็นอันดับแรก โดยการเพ่งมองจักระ ณ จุดกึ่งกลางระหว่างคิ้วทั้งสองข้าง
ฝึกเพิ่งไปที่จุดๆเดียวเพื่อสร้างภาพ จินตนาการแสงสว่างลักษณะเหมือนดาวศุกร์ สว่างสดใสอยู่ภายในกึ่งกลางระหว่างคิ้ว

ผลที่จะเกิดในระดับแรก
ผู้ฝึกจะสามารถสำผัสได้กับปฎิกิริยาการเกิดพลังงาน การเคลื่อนไหวเล็กน้อยเหมือนมีสิ่งใดกำลังเคลื่อนไหวอยู่
และเมื่อสำผัสกับมันได้ นั่นคือจักระที่ 6 กำลังจะเปิดขึ้น
ฝึกต่อไปอย่างไม่มีกำหนด จนกว่าจักระจะหมุนตัวเองได้เหมือนลูกข่าง

หมายเหตุ
ไม่ต้องตกใจในปรากฏการสิ่งที่เกิดขึ้น เมื่อจักระถูกเปิด
จักรจะยังคงพัฒนาตนเองต่อไปอีกนาน จนกว่าเกิดพลังงาน และเกิดการเคลื่อนไหวของลมปราณภายในร่างกาย
ลมปราณทั่วร่างจะถูกจักระดึงดูดให้เคลื่อนไหว และวิ่งเป็นเหมือนสายน้ำไหลผ่านแผ่นหลังไปที่ต้นคอ ข้างหู ไปรวมกันที่กลางจักระ
เมื่อจักระที่ 6 หมุนวนต่อเนื่องเร็วขึ้น และมีพลังมากขึ้น
จักระจะดูดเอากระแสของกายทิพย์ จิต วิญญาณ มารวมกันอยู่ ณ จักระที่ 6

ผู้ฝึกเมื่อฝึกได้ถึงตอนนี้แล้ว ท่านจึงจะสามารถฝึกในขั้นตอนของการถอดกายทิพย์ให้ออกจากกายเนื้อต่อไปได้
เมื่อจักระทำงาน และเกิดการรวมตัวกันจนพร้อมแล้ว ต่อไปผู้ฝึกก็สามารถถอดกายทิพย์ จิตวิญญาณออกจากร่างกายได้สำเร็จ

บนสวรรค์สถานเบื้องบน พระตรีเอกานุภาพทรงสถิตอยู่ พระองค์ทรงดูแลท่านเสมอถ้าท่านแสวงหา
ขอพระตรีเอกานุภาพ ทรงอวยพรท่าน และคุ้มครองท่านให้พ้นจากภัยอันตรายใดๆทั้งปวง
พระตรีเอกานุภาพคือผู้ใด คลิกลิงค์ไปดูรายละเอียดกันครับ